Home ข่าวประชาสัมพันธ์ ถอดโมเดลฝ่าวิกฤติโควิด-19 SME “ครูเซ็ท”Resilience ธุรกิจสู่ออนไลน์-วงเงินโอดีต่อลมหายใจ

ถอดโมเดลฝ่าวิกฤติโควิด-19 SME “ครูเซ็ท”Resilience ธุรกิจสู่ออนไลน์-วงเงินโอดีต่อลมหายใจ

by admin
1136 views

“ดร.ทวีลาภ” กูรูแบงก์กรุงเทพ ชี้คัมภีร์วิถีรอดธุรกิจยุคโควิด-19 เรียนรู้ Resilience เปิดใจ ปรับตัว ยืดหยุ่น เรียนรู้สิ่งใหม่ ในธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปในบริบทที่สอดรับกับสถานการณ์ยุคปัจจุบัน ด้าน SME “ครูเซ็ท” ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเปิดโมเดลธุรกิจและการปรับตัวฝ่าวิกฤติโควิด พลิกวิกฤติเปลี่ยนเครื่องจักรลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตดึงออนไลน์ดันยอดขาย พร้อมใส่อาร์แอนด์ดีตรงใจผู้บริโภค รับพฤติกรรมคนเปลี่ยน ชี้ได้วงเงินโอดีแบงก์ต่อลมหายใจช่วยสภาพคล่องธุรกิจ

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์  กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กล่าวเปิด โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง(พศส.) 2564 ภายใต้หัวข้อ “เปลี่ยน-เพื่อ-ปรับ Restart ธุรกิจ-อุตสาหกรรม ฝ่ามหันตภัยโควิด-19” ว่า หลังการปลดล็อกและเปิดประเทศธุรกิจและสังคมต่างก็คาดหวังการผ่อนคลายมาตรการต่างๆของรัฐบาทเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้สามารถใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณชนได้มากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายฝ่ายยังมีความกังวลใจว่าระลอก 5 หรือ 6 เกิดขึ้นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องตั้งอยู่กับความไม่ประมาทและต้องเรียนรู้กันต่อไปตลอด 2 ปีที่ผ่านมานับจากนี้ไปในจังหวะที่มีการพูดถึง Restart Reopening Recovering ต่างๆ มากขึ้นทำให้สามารถก้าวผ่านความท้าทายของประเทศนับจากนี้ไปด้วยดี

ทั้งนี้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ปัจจุบันทุกคนและทุกธุรกิจต่างอยู่ในรูปแบบใหม่ ดังนั้นการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพื่อ Resilience ในบริบทของ ความยืดหยุ่น คือ การปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายต่างๆ ต่อไป

ในขณะที่การปรับตัวและยืดหยุ่นทางธุรกิจโดยเฉพาะ SME ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้นก็ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์ทางรอดในยุค New Normal โดยตัวอย่างที่น่าสนใจของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในระดับต้น ๆ คือ บริษัท ไทย-มีโก้ จำกัด  ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ “ครูเซ็ท”

โดยนายนที จรัสสุริยงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ไทย-มีโก้ จำกัด  ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมบรนด์ครูเซ็ท  เปิดเผยว่า ธุรกิจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด–19 ส่งผลให้ยอดขายลดลงประมาณ 10-15% เนื่องจากร้านทำผมต้องหยุด ซึ่งเป็นฐานลูกค้าขนาดใหญ่ของครูเซ็ท

แต่ยังโชคดีที่ครูเซ็ท ส่งออกขายสินค้าไป 40 ประเทศทั่วโลก โดยลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในเวียดนาม  ที่นำไปจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่อย่างวินมาร์ท  , ไนจีเรีย และดูไบ รวมทั้งประเทศอื่นๆ เช่น ลาว เมียนมา ซึ่งแต่ละประเทศจะได้รับผลกระทบโควิด–19 ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก รวมทั้งผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งปกติผลิตอยู่แล้ว มาจำหน่ายช่วยลดผลกระทบด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงโควิดแม้ว่าทำให้ยอดขายตกไป เพราะต้องห่างจากร้านซาลอนที่เป็นลูกค้าหลัก ซึ่งปกติการทำตลาดของครูเซ็ท จะใช้ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปให้ความรู้ช่างทำผมในการใช้สินค้า แต่เมื่อต้องเผชิญกับโควิดก็ลงพื้นที่ไม่ได้ ดังนั้นทาง “ครูเซ็ท” จึงได้ปรับกลยุทธ์ หันมาทำเวิร์คชอปผ่านช่องทางออนไลน์ แม้ช่วงแรกจะมีอุปสรรคบ้าง เพราะปกติ มากกว่า 95% เป็นการใช้กลยุทธ์แบบออฟไลน์ แต่ก็ได้พยายามเรียนรู้และปรับกันไป

ซึ่งตอนนี้ช่องทางออนไลน์ก็สามารถทำยอดขายเพิ่มได้มากหลายเท่า เพราะฐานเดิมน้อยมาก ดังนั้นจากนี้ต่อไปก็จะทำออนไลน์ ช่วยในการให้ความรู้ เพื่อช่วยเข้ามาเสริมออฟไลน์ให้ดีขึ้น แต่เมื่อสถานการณ์กลับมาดีขึ้น บริษัทก็ยังคงเน้นการลงพื้นที่ให้ความรู้โดยตรงกับร้านซาลอนต่อไป เพราะจะทำให้ได้ฟีดแบคโดยตรงและสามารถนำมาพัฒนาและปรับปรุงต่อไป

นายนที กล่าวเพิ่มเติมถึงการปรับตัวเพื่อรับกับสถานการณ์โควิด ว่า บริษัทได้เดินหน้าลดต้นทุน ด้วยการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ที่ใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
รวมทั้งได้ปรับกลยุทธ์การผลิต ถ้าสินค้าตัวไหน ยอดขายไม่ดี ก็ยอมให้ขาดบ้าง จากปกติจะไม่ยอมให้สินค้าทั้ง 500 SKU แม้แต่รายการเดียว  เพื่อนำกำลังการผลิตมาผลิตสินค้าที่ยอดขายดี ห้ามขาดเด็ดขาด

ขณะเดียวกันยังได้รับการช่วยเหลือจากธนาคารกรุงเทพ ในการให้สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ให้วงเงินเบิกเกินบัญชี (วงเงินโอดี)  เข้ามาช่วยเสริมธุรกิจ ทำให้สภาพคล่องบริษัทดีขึ้น ส่งผลให้ยังเจริญเติบโตได้

อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปบริษัทยังเดินหน้าพัฒนาสินค้า เพื่อให้ตรงตามต้องการลูกค้า ซึ่งทางครูเซ็ท มีทีมพัฒนาอาร์แอนด์ดีที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะหารือร่วมกับซัพพลายเออร์ ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีการทำรีเสิร์ชข้อมูลความต้องการลูกค้าจำนวนมาก รวมทั้งนำเทรนด์ของโลกมานำเสนอ และข้อมูลจากการลงพื้นที่ของฝ่ายขาย เพื่อนำมาผลิตและพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพสูงสุดส่งตรงถึงผู้บริโภค

“ถ้าโควิด-19 กลับมาระบาดอีก เชื่อว่า “ครูเซ็ท”ยังอยู่ได้  โดยจะนำกลยุทธ์ที่ได้เรียนรู้นี้มาใช้  ซึ่งตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคบางส่วนเปลี่ยนไป หันมาดีไอวาย ทำสีผมกันเองมากขึ้น ทาง “ครูเซ็ท” ก็มีสินค้ารองรับอยู่แล้ว ก็เสริมในเรื่องการให้ความรู้ผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งหัวใจหลักของ “ครูเซ็ท” ที่ทำให้ก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้ คือ การเข้าใจความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับร้านค้าส่ง และร้านซาลอนทั่วประเทศ พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่มีความมั่นใจในตัวสินค้าคุณภาพดี มีมาตรฐาน ราคาไม่แพง ทำให้มีการบอกเล่าปากต่อปาก เพราะร้านทำผมจะมีกลุ่มใหญ่ เพื่อนก็จะแนะนำว่าตัวไหนดี ซึ่ง “ครูเซ็ท” ถือเป็นสินค้าที่ร้านทำผมส่วนใหญ่ต้องมีติดไว้ เป็นเหมือนสินค้าอัตโนมัติที่ขายได้เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราต้องพัฒนา และรักษาคุณภาพสินค้าที่มีมากว่า 64 ปีต่อไปให้ดีที่สุด” นายนที กล่าวสรุป